AI Fatigue เหนื่อยมั้ยที่ต้องไล่ตาม AI
เคยรู้สึกไหมว่า วันๆ เราต้องคอยตามข่าวสารและเครื่องมือ AI ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วแบบไม่หยุดหย่อน มันเหมือนกับการวิ่งบนแผ่นลู่วิ่งที่ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเราเองก็ต้องพยายามไม่ให้ตกขบวน ซึ่งนั่นแหละที่เขาเรียกกันว่า AI Fatigue
AI Fatigue คืออะไร?
พูดง่ายๆ คือ ความเหนื่อยล้าและความเครียดที่เกิดจากการต้องตามทันเทคโนโลยี AI ที่พัฒนารวดเร็วมากทั้งในเรื่องของเครื่องมือใหม่ ฟีเจอร์ใหม่ๆ ข้อมูลข่าวสารที่ทะลักเข้ามาแบบไม่หยุดหย่อน จนบางทีเราอาจรู้สึกว่ามันหนักเกินไปจนแทบจะจับจุดไม่ถูกแล้ว
ทำไม AI Fatigue ถึงเกิดขึ้น?
- อัปเดตเร็วเกินไป – AI พัฒนาและปล่อยเครื่องมือใหม่แทบจะทุกสัปดาห์ ทำให้เราต้องเรียนรู้และปรับตัวอยู่ตลอดเวลา
- ปริมาณข้อมูลล้นหลาม – ข่าวสาร บทความ การสอน เทคนิคใหม่ๆ พร้อมเข้ามาให้เราเสพไม่หยุดหย่อน
- ความกดดันจากการใช้งาน – ต้องเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่งั้นจะตกขบวนเทคโนโลยี
- ความคาดหวังสูง – ตัวเองหรือองค์กรก็อยากใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็กลัวว่าจะทำไม่เป็นหรือไม่ทันเวลา
แล้วเราจะรับมือกับ AI Fatigue ยังไงดี?
- เลือกใช้ AI ที่จำเป็นและเหมาะกับงาน – ไม่จำเป็นต้องรู้จักหรือใช้งานทุกเครื่องมือ ลองหาเครื่องมือที่ตอบโจทย์ชีวิตหรือธุรกิจจริงๆ
- อ่านหรือเรียนรู้แบบมีเป้าหมาย – ตั้งเป้าหมายว่าอยากได้ความรู้เรื่องไหน แล้วโฟกัสแค่นั้น เพื่อลดความสับสน
- พักบ้างก็ได้ – ไม่ต้องวิ่งตามตลอดเวลาให้หมดแรง บางทีแค่ดูเทรนด์ใหญ่ๆ แล้วค่อยกลับมาอัปเดตก็ยังทัน
- ใช้เครื่องมือช่วยอัปเดต – ใช้ AI ช่วยกรองข่าวสารหรือรวบรวมข้อมูลที่สำคัญเข้ามาให้เรา ง่ายและเร็วขึ้น
สรุปส่งท้าย
AI Fatigue เป็นเรื่องธรรมดามากในยุคนี้ แต่ไม่ต้องกลัวว่าคุณจะต้องไล่ตาม AI แบบบ้าๆ เพราะเป้าหมายไม่ใช่การวิ่งแข่ง แต่คือการใช้ AI อย่างชาญฉลาดให้เหมาะกับชีวิตและความสามารถของเราเอง ถ้าทำได้แบบนี้ ไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไวแค่ไหน เราจะไม่เหนื่อยจนเกินไปแน่นอน












