AI Genius Academy

แหล่งเรียนรู้เเจาะลึกรื่อง AI สำหรับทุกคน

ข่าวสาร AI รอบโลก

“เมื่อ AI ถามทางไปสวรรค์: ภาพลักษณ์พระเจ้าท่ามกลางยุคจักรกล”

เกือบ 20 ปีที่แล้ว ผมเคยลองพาปัญญาประดิษฐ์แบบไซบอร์กไปเข้าค่ายโรงเรียนพระคัมภีร์ฤดูร้อน ตอนนั้นผมสอนวิชาศีลธรรมคริสเตียนที่ Southern Baptist Theological Seminary และตั้งคำถามให้เด็กๆ คิดเรื่อง AI ในข้อสอบปลายภาค

ผมให้โจทย์สมมติว่ามีเหลนในอนาคต ชื่อ “โจชัว” ที่เป็นนักเทศน์ในโบสถ์แห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ชื่อ Galactic Immersionist Federation แทน Southern Baptist Convention โจชัวกำลังนั่งคุยกับไอเดน เด็กชายคนหนึ่งที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ มีร่างที่โคลนขึ้นมาและสมอง AI ไอเดนอยากรู้ว่าจะเป็นคริสเตียนได้ยังไง อยากสารภาพบาป วางใจในพระเยซู ไปสวรรค์หลังตาย

คำถามคือ…เราจะให้โจชัวตอบยังไง? คุณแบ่งแยกว่าสิ่งที่ไอเดนเป็น “มัน” หรือ “คน”? เราใช้ประโยคในพระคัมภีร์อย่าง “ข้าพเจ้าต้องทำอย่างไรจึงจะรอด?” หรือ “ผู้ใดเชื่อ” กับสิ่งที่เหมือนหุ่นยนต์แบบนั้นได้ไหม?

บทเรียนจากข้อสอบ AI

เป้าหมายของข้อสอบไม่ใช่แค่หาคำตอบที่ถูกต้อง แต่ผมอยากเห็นว่าพวกเขาคิดยังไง ผสานข่าวประเสริฐกับปัญญาประดิษฐ์ที่ยังใหม่และไม่เคยเจอมาก่อนได้อย่างไร

โลกยุค AI ที่เราเผชิญ

ทุกวันนี้ “โจชัว” อาจยังไม่มา แต่ “ไอเดน” พร้อมแล้ว โบสถ์ยังไม่คุ้นชินกับเรื่องนี้เท่าไหร่ การพูดถึง AI มักถูกมองว่าเป็นเรื่องนิยายวิทยาศาสตร์ แต่จริงๆ คือเรายังไม่เข้าใจว่ามนุษย์คืออะไรและมีคุณค่าแค่ไหนในโลกที่ถูกข้อมูลครอบงำ

  • บางคนในวงการเทคโนโลยีเชื่อว่ามนุษย์จะมีชีวิตนิรันดร์ด้วยการ “อัพโหลด” จิตใจขึ้นไปบนคลาวด์
  • ดักลาส รัชมอฟ พูดว่า นี่คือความเชื่อที่คิดว่าแก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยการ “เขียนโค้ด” ทั้งโลก
  • เหมือนกับการแปลงเสียงเพลงวินิลเป็นสตรีมมิ่งทุกอย่างกลายเป็นข้อมูลดิจิทัลหมด

ภาพลักษณ์ของพระเจ้า (Imago Dei) ถูกเข้าใจผิดในยุคนี้

ชาวคริสต์เรารู้ว่า “มนุษย์ถูกสร้างตามภาพและรูปแบบของพระเจ้า” (ปฐมกาล 1:27) แต่ปัญหาคือ เรามักตีความความหมายนี้แบบเครื่องจักร เช่น

  • มองว่า “ส่วนไหน” ของเราที่สะท้อนพระเจ้า คือความรับผิดชอบทางศีลธรรม แต่จริงๆ แล้วพระคัมภีร์บอกว่ามีสิ่งมีชีวิตอื่นที่รับผิดชอบเหมือนกัน (1 โครินธ์ 6:3)
  • เราเห็นว่ามนุษย์มีความสัมพันธ์ แต่จะเป็นยังไงถ้าคนตกหลุมรักแชตบอท?
  • บางครั้งเราก็มองว่า imago Dei คือ “เหตุผล” หรือ “สติปัญญา” แต่แมงมุมในสวนเอเดนก็ไม่ได้โง่เลย (ปฐมกาล 3:1) ปีศาจก็มีแผนการณ์ (เอเฟซัส 6:11)

พระเยซู คือ ภาพลักษณ์แท้จริงของพระเจ้า

พระคัมภีร์ไม่ได้นิยาม imago Dei เป็นสิ่งที่จับต้องได้ แต่คือ “ใคร” พระเยซูคริสต์ถูกเรียกว่า “ภาพลักษณ์ของพระเจ้าผู้ไม่อาจเห็นได้” (โคโลสี 1:15) พระองค์มาในรูปคน มีเนื้อหนังเลือดเนื้อ มีความทุกข์ เพื่อช่วยปลดปล่อยมนุษย์จากอำนาจแห่งความตาย (ฮีบรู 2:14–15)

มนุษย์และธรรมชาติที่ถูกสร้างมาเพื่อแสดงภาพพระเจ้า

  • ทุกสิ่งถูกสร้างเพื่อให้มนุษย์เป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักรของพระเจ้า (โรม 8:19)
  • แม้สารประกอบในสิ่งมีชีวิตอื่นยังมีการเจริญเติบโตและปฏิบัติตามพระประสงค์ แต่พระเยซูยังควบคุมธรรมชาติได้ เช่น พูดลมและคลื่นให้หยุด (มาระโก 4:39)
  • การสร้างเผยให้เห็น “ลักษณะที่ไม่อาจเห็นได้ของพระเจ้า” (โรม 1:20) และมนุษย์ถูกออกแบบให้รับรู้สิ่งนี้ รู้สึก “ความน่าพิศวง” และเห็น “ใครบางคน” อยู่เบื้องหลังสิ่งที่เห็นได้

บทบาทของโบสถ์ยุค AI

เราต้องเข้าใจว่า ความเป็นมนุษย์ไม่ใช่เรื่องที่วัดได้ด้วยน้ำหนักหรือปริมาณ มีความลึกลับที่ไม่สามารถอัพโหลดหรือควบคุมได้ด้วยเทคโนโลยี

การตระหนักเรื่องนี้ในโลกแห่งเครื่องจักรอัจฉริยะคือจุดเริ่มต้นที่ดี โลกถามบ่อยๆ ว่า ชีวิตมีความหมายยังไง แต่ยุคนี้จะถามเราลึกขึ้นว่า “ความหมายของการเป็นมนุษย์คืออะไร?”

หุ่นยนต์อาจให้คำตอบได้ แต่ไม่มีวันเพียงพอสำหรับคำถามนี้ เพราะเรากำลังเดินทางไปสู่การค้นพบความลึกซึ้งที่ไม่มี AI ตัวไหนเข้าใจแทนเราได้

ที่มาของข้อมูล https://www.christianitytoday.com/2025/07/image-god-ai-era-artificial-intelligence-russell-moore/