AI Genius Academy

แหล่งเรียนรู้เเจาะลึกรื่อง AI สำหรับทุกคน

ข่าวสาร AI รอบโลก

ศูนย์กลางไม่ใช่คำตอบ? เมื่อเครือข่ายคลัสเตอร์ AI ขัดแย้งนโยบายนวัตกรรม

ถ้าเราพูดถึงวงการ **ปัญญาประดิษฐ์ (AI)** ตอนนี้นี่มันบอกเลยว่าไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีอย่างเดียวแล้ว แต่กลายเป็นหัวใจหลักที่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและนวัตกรรมของแต่ละภูมิภาคไปแล้ว ยิ่งในยุคที่ทุกคนพูดกันถึง “คลัสเตอร์ AI” หรือกลุ่มพื้นที่ที่รวมเอาไอเดียและองค์กรมากมายมารวมกันเพื่อสร้างนวัตกรรม บอกเลยว่ามันสำคัญมาก เพราะหากว่ารัฐบาลหรือภาคอุตสาหกรรมไม่เข้ามาช่วยจัดการและเติมเต็ม ก็อาจจะพลาดโอกาสสำคัญไปเลยนะ

คลัสเตอร์ AI คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?

ในมุมมองง่าย ๆ คลัสเตอร์ AI ก็เหมือนกับการตั้งแก๊งหรือกลุ่มของบริษัทและนักวิจัยที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน หรืออาจจะกระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่เชื่อมโยงกันด้วยความร่วมมือทางนวัตกรรม เทคโนโลยี และการวิจัย แล้วเติบโตพัฒนาร่วมกันอย่างรวดเร็ว อย่างในประเทศจีน มีการวิจัยระบุนะว่า มีคลัสเตอร์ AI กว่า 29 ที่ที่พร้อมโคจรรวมตัวกันด้วยความร่วมมือข้ามภูมิภาค ซึ่งหมายความว่าการทำงานในทีมไม่ได้อยู่แค่ในเมืองเดียว แต่ข้ามจังหวัด-ข้ามอำเภอกันไปเลย

การที่คลัสเตอร์เหล่านี้เติบโตได้ดี มาจากการรับมือได้ถูกจังหวะของนโยบายภาคอุตสาหกรรมที่เข้ามาสนับสนุนเบื้องหลัง ช่วยสร้างแรงกระตุ้น นอกจากนี้ การมีสถานะเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายที่สูง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยให้นวัตกรรมเติบโตขึ้นเสมอไป จริง ๆ แล้วสถานะศูนย์กลางนี้บางทีก็อาจจะทำให้การผลักดันนโยบายส่งเสริมนวัตกรรมที่รัฐบาลพยายามทำมีอิทธิพลน้อยลงด้วยซ้ำ

นโยบายภาคอุตสาหกรรม กับการผลักดันนวัตกรรม AI

  • รัฐบาลแต่ละประเทศ เช่น สหรัฐ, สหภาพยุโรป, และจีน มีนโยบายเด็ด ๆ เพื่อดัน AI ขึ้นมาเป็นหัวหอกเศรษฐกิจ
  • นโยบายเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในคลัสเตอร์ AI ที่รวมคนและองค์กรที่เกี่ยวข้องไว้ด้วยกัน
  • แต่ก็ต้องระวังว่า การทำงานใกล้ชิดของคลัสเตอร์ที่มีสถานะเป็นศูนย์กลางสูงอาจทำให้ระบบนวัตกรรมไม่รับเอาผลของนโยบายได้เต็มที่ เพราะทรัพยากรและความรู้ส่วนใหญ่อาจกักตัวอยู่ในกลุ่มนั้นและไม่กระจายออกไป

Network Centrality คืออะไร? แล้วเกี่ยวอะไรกับ AI

พูดง่าย ๆ Network Centrality ก็คือการวัดว่า ใครในเครือข่ายนี้มี “ตำแหน่งสำคัญ” หรือศูนย์กลางการเชื่อมต่อมากขนาดไหน นั่นหมายความว่าองค์กรหรือคนที่มีสถานะศูนย์กลางในเครือข่าย จะเข้าถึงข้อมูล ความรู้ และทรัพยากรต่าง ๆ ได้รวดเร็วและเยอะกว่าคนอื่น ๆ

แต่อย่าลืมนะว่า การรักษาตำแหน่งนี้มันต้องลงทุนเยอะ และบางทีการที่ใครสักคนหรือองค์กรหนึ่งอยู่ในจุดศูนย์กลางมากเกินไป อาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องความยืดหยุ่นและการเปิดรับนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้เหมือนกัน

จีนในฐานะตัวอย่างการขับเคลื่อน AI

จีนกำลังจะกลายเป็นตลาดใหญ่ของ AI อย่างรวดเร็ว โดยภายใน 2035 นั้น ตลาด AI ที่นั่นคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 1.73 ล้านล้านหยวน หรือราว 240,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นี่ขนาดใหญ่จนเทียบกับโลกทั้งใบได้เลย

จากการวิเคราะห์ข้อมูลสิทธิบัตร AI ของจีนในช่วงปี 2011-2020 พบว่า คลัสเตอร์ AI กว่า 29 แห่งนั้นมีรูปแบบการทำงานร่วมกันที่น่าสนใจ คือ อย่างน้อยมีการเชื่อมโยงกันในพื้นที่ และส่วนใหญ่ยังคงมีความร่วมมือข้ามภูมิภาคมากกว่าแค่ในเมืองเดียว

คำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเริ่มธุรกิจหรือทำคอนเทนต์ด้วย AI

ถ้าคุณคือ Gen Y หรือ Gen Z กำลังเริ่มทำงาน หรือสนใจอยากจะสร้างธุรกิจหรือทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับ AI บทเรียนสำคัญจากงานวิจัยนี้ก็คือ:

  • อย่ามองแค่ว่าเทคโนโลยี AI เป็นเรื่องของเครื่องมือหรือซอฟต์แวร์เฉย ๆ แต่ต้องเข้าใจเรื่องการสร้างเครือข่ายและการร่วมมือกันด้วย
  • ถ้าอยากเติบโตให้ไว ต้องจับมือกับกลุ่มคนหรือองค์กรอื่น ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างนวัตกรรมใหม่ได้เร็วขึ้น
  • นโยบายจากภาครัฐไม่ใช่อุปสรรคหรือภาระ แต่สามารถเป็นแรงขับเคลื่อนให้ธุรกิจของคุณแข็งแรงขึ้นได้ ถ้าเข้าใจและใช้ให้ถูกวิธี
  • อย่าหลงใหลในตำแหน่งศูนย์กลางของเครือข่ายจนเกินไป เพราะบางทีการกระจายความคิดและการเปิดรับไอเดียใหม่ ๆ จากภายนอก จะช่วยให้ธุรกิจของคุณยืดหยุ่นและเติบโตได้ดีกว่า

สรุปคือ AI ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของ “คน” และ “เครือข่าย” ที่ต้องทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ โรงเรียนหรือบริษัทไหนที่เข้าใจจุดนี้ดี ก็จะมีโอกาสเริ่มต้นได้ไวและไปต่อได้ไกลแน่นอน

ที่มาของข้อมูล https://www.nature.com/articles/s41599-025-05453-z